-->

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี ?





Laz Flash Sale ลดแรงกว่า 90%
ดีลจำกัดเวลา ให้คุณเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ทุกวัน สินค้าลดราคากับ Flash Sale
Lazada แฟลชเซล จัดเต็มดีลฮิตทุกวัน ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ☆ดีลจำกัดเวลาสุดฮอต ☆ลดราคาแรง ☆สินค้าหลากหลาย

ช้อปเลย





สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี ?



สกูตเตอร์ไฟฟ้า เป็นรูปแบบของการเดินทางที่มีความรวดเร็วมากกว่าการเดินและมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสนุกรวมถึงราคาถูกไม่เหมือนกับจักรยานที่จะทำให้คุณเหงื่อออกขณะใช้งานซึ่งอาจจะไม่เหมาะสำหรับใช้ในการเดินทางเพื่อที่จะไปทำงานเท่าไหร่นักสำหรับคนที่ไม่มีที่อาบน้ำอยู่ในที่ทำงาน



ความเร็ว,ขนาด,น้ำหนัก,ระยะทางที่ทำได้,ความน่าเชื่อถือ และราคา นั้นเป็นสิ่งที่คุณควรจะพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งานซึ่งในการเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์มาใช้งานนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องพิจารณาในหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะเลือกซื้อสกูตเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณมากที่สุดดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเอาข้อมูลที่คุณควรรู้เกี่ยวกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณมากที่สุด

แนะนำสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี



Ninebot by Segway รุ่น Ninebot Kick Scooter MAX สกูตเตอร์ไฟฟ้า


เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมโดยรองรับการวิ่งที่ความเร็วสูงสุดได้ถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสามารถวิ่งได้ไกลถึง 65 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งน้ำหนักตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 18 กิโลกรัมสามารถที่จะยกได้อย่างง่ายดายมาพร้อมกับล้อยางแบบเติมลมขนาด 10 นิ้วสามารถรองรับน้ำหนักผู้เล่นได้สูงสุดถึง 100 กิโลกรัมมาพร้อมกับระบบโช๊คหน้าและล้อหลังที่มีระบบกันสะเทือนมีหน้าจอ แสดงผลแบบ LCDใช้ในการแสดงผลความเร็วระยะทางระดับแบตและสถานะการใช้งานต่างๆตัวเครื่องรองรับการพับเก็บได้ถึง 2 step มีระบบการล็อคที่แน่นหนาตัวแบตเตอรี่นั่นมาพร้อมกับระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะพร้อมรองรับ regenerative braking หรือระบบชาร์จกลับเมื่อมีการเบรกมาพร้อมกับมอเตอร์ที่มีกำลังสูงถึง 800 วัตต์หรือ 1 แรงม้าสามารถที่จะเชื่อมต่อเข้า Application ได้เพื่อที่จะใช้ในการควบคุมการใช้งานต่างๆรวมถึงดูสถานะของตัวสกู๊ตเตอร์ได้อย่างง่ายดาย




ตัวเครื่องมาพร้อมกับมาตรฐาน ip65 สามารถที่จะลุยได้ทุกสภาวะอากาศดู Scooter นั้นสามารถที่จะทำการฉีดหรือเข็มด้วยเท้าเป็นสกู๊ตเตอร์ธรรมดาได้เมื่อแบตเตอรี่หมดให้ความประหยัดในการชาร์จไฟโดยในการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งนั้นจะกินค่ากระแสไฟฟ้าเพียง 3 บาทเท่านั้นตัวเครื่องมาพร้อมกับการรับประกันสินค้าถึง 1 ปีเล่นมีบริการอะไหล่ครอบคลุมทุกการใช้งาน


รายละเอียดเพิ่มเติม



Ninebot by Segway รุ่น Ninebot Kick Scooter ES2 (2020 Edition) สกูตเตอร์ไฟฟ้า


เล่นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสามารถวิ่งได้ไกล 25 เมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งน้ำหนักตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 12.5 kg รองรับผู้เล่นน้ำหนักสูงสุดถึง 100 กิโลกรัมมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนทั้งล้อหน้าและล้อหลังและมีหน้าจอ LCD แสดงผลการใช้งานต่างๆไม่ว่าจะเป็นความเร็วแบบสถานะเครื่องและอื่นๆตัวแบตเตอรี่นั้นมาพร้อมกับระบบจัดการแบตเตอรี่แบบอัจฉริยะและรองรับระบบ regenerative braking ซึ่งจะเป็นระบบปั่นไฟกลับเข้าไปชาร์จไว้ที่แบตเตอรี่เมื่อมีการเบรกตัวมอเตอร์นั้นมีกำลังสูงสุดถึง 700 วัตต์สามารถที่จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด




มาพร้อมกับระบบไฟแสงสว่างและไฟระบบเบรคเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานมีอัตราการบริโภคไฟฟ้าที่ต่ำโดยในการใช้ไฟ 1 ครั้งจะกินกระแสไฟฟ้าที่ประมาณ 3 บาทต่อการชาร์จ 1 ครั้งตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาแข็งแรงทนทานและไม่เป็นสนิมสำหรับการรับประกันนั้นจะมีการรับประกันสินค้า 1 ปีแบตเตอรี่ 6 เดือนจากทางผู้ขายโดยจะมีอะไหล่ต่างๆไว้ให้บริการอย่างครบครัน


รายละเอียดเพิ่มเติม



Mi Electric Scooter Essential Lite สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า กำลังไฟมอเตอร์ 250W


เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจากเสียวหมีซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพชื่อดังจากประเทศจีนที่ขึ้นชื่อในเรื่องประสิทธิภาพและคุณภาพของสินค้าโดย Scooter รุ่นนี้เป็นสกู๊ตเตอร์แบบ 2 ล้อที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนตัวรถใช้วัสดุอลูมิเนียมเกรดสูงมีความแข็งแรงทนทานสามารถที่จะทำความเร็วได้สูงสุดถึง 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและใช้งานได้ระยะทางสูงสุดถึง 30 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งมาพร้อมกับระบบ regenerative braking System ที่ช่วยชาร์จไฟฟ้าเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ขณะที่ทำการเบรกตัวแบตเตอรี่นั้นมาพร้อมกับระบบจัดการแบตเตอรี่อัตโนมัติหรือ Smart BMS ล้อหลังใช้ระบบเบรคแบบดิสก์เบรกและล้อหน้าใช้ระบบเบรกแบบ ABS braking System ช่วยให้คุณสามารถที่จะหยุดรถได้อย่างปลอดภัย




สกู๊ตเตอร์รุ่นนี้มาพร้อมกับล้อขนาด 8.5 นิ้วที่เป็นล้อฮับมอเตอร์ที่มีมอเตอร์อยู่ภายในล้อโดยมีกำลังไฟของมอเตอร์ที่ 250 วัตต์สามารถที่จะใช้งานได้สูงสุดถึง 500 วัตต์ให้แรงบิดสูงถึง 16 นิวตันเมตรรองรับการไต่ระดับความชันสูงสุดที่ 14 องศา  องศาตัวถัง เซนติเมตร cm ช่วย ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงพื้น ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆได้อย่างง่ายดายด้วย ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆได้อย่างง่ายดายตัวเครื่องมาพร้อมมาตราฐานการกันน้ำแบบ IP 54 ช่วยให้คุณใช้งานได้ทุกสภาพภูมิอากาศแบตเตอรี่เป็นแบบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18650 ความจุ 280 WH ใช้กำลังไฟในการชาร์จถึง 71 วัตต์ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จแบตเต็มเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น



มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED ความสว่างสูงถึง 1.1 วัตต์และไฟท้ายแบบ LED เช่นเดียวกัน  ในส่วนของล้อและยางนั้นมาพร้อมกับล้อแบบเติมลมขนาด 8.5 นิ้วทำให้การขับขี่นั้นมีความนุ่มนวลและมีการยึดเกาะถนนที่ดีรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับแอพพลิเคชั่นต่างๆผ่านทางช่องสัญญาณ Bluetooth 4.0 รองรับผู้ใช้งานที่มีน้ำหนักสูงสุดถึง 100 กิโลกรัมและมีส่วนสูงตั้งแต่ 120 จนถึง 200 cm ตัวสกู๊ตเตอร์เองมีน้ำหนักเพียง 12.5 kg ทำให้คุณสะดวกในการยกเพื่อที่จะนำไปจัดเก็บ


รายละเอียดเพิ่มเติม


สิ่งที่คุณควรจะพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งาน


1.คุณภาพในการขับขี่

คุณภาพในการขับขี่ของสกู๊ตเตอร์ที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมากมายสกู๊ตเตอร์บางรุ่นนั้นมีคุณภาพในการขับขี่ที่แย่มากไม่เหมาะสมที่จะใช้งานในการเดินทางแม้แต่นิดเดียวถึงแม้ว่ารูปลักษณ์กันในการใช้งานของพวกมันที่อยู่บนปกหรือหน้าโฆษณาสินค้าของเว็บไซต์ของผู้ผลิตนั้นจะดูน่าใช้งานก็ตามแต่ว่าสำหรับคนที่ซื้อมาลองใช้แล้วนั้นจะเลิกใช้พวกมันและไม่อยากที่จะใช้พวกมันอีกต่อไปเนื่องจากว่าพวกมันนั้นไม่มีความสบายขณะที่ใช้งานเลยแม้แต่นิดเดียวเรียกได้ว่าตั้งแต่วินาทีแรกที่ขึ้นขี่บน Scooter ตัวนั้นคุณจะสัมผัสได้ถึงความสำคัญเดือนที่จะเกิดขึ้นแทบจะทันทีถึงแม้ว่าพื้นผิวถนนนั้นจะราบเรียบก็ตามโดยมี 3 ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อคุณภาพในการขับขี่ของสกู๊ตเตอร์ได้แก่

1.1ขนาดของล้อ 
 Scooter นั้นเราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีขนาดล้อที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 8 นิ้วโดยล้อที่มีขนาดเล็กและแคบนั้นจะทำให้คุณใช้งานในพื้นผิวขรุขระได้ไม่ดีและมีปัญหาในการใช้งานในพื้นที่ที่มีความขรุขระมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลุมบ่อที่อยู่ตามท้องถนนนั้นอาจจะทำให้คุณเกิดอันตรายร้ายแรงได้ฮัลโหลของสกู๊ตเตอร์นั้นไม่สามารถที่จะข้ามผ่านหลุมพวกนั้นได้

1.2ล้อและยาง
คุณควรเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้งานระบบล้อและยางที่เป็นแบบเติมลมจะให้ประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทกและยึดเกาะถนนได้ดีกว่าล้อแบบที่เป็นยางตัน เพราะว่าล้อแบบเติมลมนั้นจะมีความสามารถในการยืดหยุ่นได้ดีและสูงกว่ารวมถึงเนื้อยางที่มีความเหนียวนุ่มกว่าสามารถที่จะยึดเกาะกับถนนได้ดีกว่ายางตันซึ่งเป็นยางที่มีเนื้อแข็งกระด้างและไม่มีการยุบตัวได้ดีเท่าที่ควรแต่ปัญหาหลักของยางแบบเติมลมนั้นก็คือปัญหายางรั่วที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเหยียบเท่ากับของมีคมต่างๆซึ่งการใช้น้ำยากันรั่วนั้นก็จะช่วยในการลดปัญหาดังกล่าวนั้นได้ดีพอสมควร

ขนาดของหน้ายางนั้นก็มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับขี่ในพื้นที่ที่มีพื้นผิวที่ค่อนข้างจะอ่อนนุ่มรอที่มีขนาดหน้ายางกว้างนั้นจะสามารถที่จะทำการวิ่งผ่านไปบนพื้นที่เหล่านั้นได้อย่างง่ายดายเมื่อเทียบกับล้อที่มีขนาดหน้ายางแคบดังนั้นล้อที่มีขนาด กว้างนั้นจะเหมาะสำหรับใช้ในการขับขี่ในรูปแบบออฟโรดมากกว่านั่นเอง

1.3ระบบกันสะเทือนช่วงล่าง
ระบบกันสะเทือนช่วงล่างของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านั้นจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้นซึ่งจะมีระบบโช๊คและสวิงอาร์มที่ช่วยในการดูดซับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวท้องถนนโดยล้อระบบยางเติมลมนั้นเมื่อเทียบกับ Scooter ที่มีล้อยางตันแต่ว่าใช้ระบบป้องกันการสั่นสะเทือนแบบใช้โช๊คนั้นล้อยางเติมลมจะมีประสิทธิภาพดีกว่าดังนั้นคุณควรเลือก Scooter ที่มีล้อแม็กยางเติมลมและมีระบบกันสะเทือนด้วยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้น

2.ความเร็วของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

 Scooter ไฟฟ้านั้นความเร็วหลักจะเกิดขึ้นจากมอเตอร์ที่อยู่ในล้อของ Scooter และน้ำหนักของผู้ขับขี่โดยมอเตอร์ยิ่งมีกำลังวัตต์มากก็จะสามารถที่จะสร้างแรงหมุนได้มากและจะทำให้ครูเต้ยวิ่งได้เร็วมากขึ้นอีกด้วยโดยทั่วไปแล้วในการใช้งาน Scooter นั้นเราไม่แนะนำให้คุณขับขี่ Scooter ด้วยความรวดเร็วเกินกว่า 30 หรือ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพราะว่าความเร็วที่เกินกว่านี้นะอาจจะทำให้คุณไม่สามารถที่จะทำการควบคุม Scooter ได้ดีเพียงพอและไม่สามารถที่จะหยุด Scooter ได้ทันเวลารวมถึงในพื้นผิวถนนของประเทศไทยนั้นไม่ได้มีความราบเรียบสม่ำเสมอดังนั้นการขับขี่ที่ความเร็วเกิน 30 หรือ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นถือว่าอันตรายในการขับขี่อย่างมาก

โดยทั่วไปแล้วสกู๊ตเตอร์ที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นจะมีกำลังวัตต์ของมอเตอร์อยู่ในช่วง 250 วัตต์ไปจนถึง 3500 วัตต์โดยมอเตอร์ยิ่งมีกำลังวัตต์มากก็จะมีกำลังมากขึ้นด้วยเช่นกันซึ่งการคำนวณกำลังวัตต์ให้เป็นแรงม้านั้นเราจะ คำนวณได้ด้วยการใช้สมการทางคณิตศาสตร์  1 hp(E) = 746 W โดย 1 แรงม้ามีค่าเท่ากับ  746 วัตต์ดังนั้นถ้ามอเตอร์มีกำลัง  1,500 วัตต์ก็จะมีกำลังวัตต์เท่ากับ 746 ด้วย 1500= 2.01072386059 แรงม้า

3.ระบบเบรคของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

ระบบเบรกของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการหยุดหรือลดความเร็วของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าลงมาซึ่งเป็นระบบที่มีความสำคัญมากซึ่งคุณควรจะพิจารณาให้ดีก่อนที่จะเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งานโดยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นจะมีระบบเบรคที่ใช้งานอยู่ 3 ประเภทได้แก่

3.1.ระบบเบรคไฟฟ้า
ระบบเบรคไฟฟ้าเป็นระบบที่ใช้กระแสไฟฟ้าในการเหนี่ยวนำขดลวดแม่เหล็กที่อยู่ภายในตัวมอเตอร์ทำให้เกิดแรงเสียดทานของแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งจะทำให้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณนั้นลดความเร็วลงได้แต่ว่าเป็นระบบเบรคที่มีประสิทธิภาพไม่ดีและมีการใช้กระแสไฟฟ้าขณะที่ใช้งานดังนั้นระบบเบรกแบบนี้ไม่แนะนำให้ใช้เป็นระบบเบรคล่ะ

3.2.ระบบเบรคแบบดิสก์เบรกและดรัมเบรค
ระบบเบรคเหล่านี้เป็นระบบโดยแบบไม่ใช้หนี้เขาเบรกคือเป็นการเบรกแบบเชิงกลซึ่งเป็นระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพสูงเหมาะสำหรับใช้เป็นระบบเบรคหลักของสกู๊ตเตอร์ของคุณโดยพวกมันนั้นมีกำลังและความสามารถในการเบรกสูงช่วยให้คุณหยุดรถสกู๊ตเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดแต่ข้อด้อยของระบบเบรคแบบนี้คือจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นทั้งผ้าเบรคเองและระบบส่งกำลังของเบรค

3.3.ระบบเบรคด้วยเท้า
เป็นระบบเบรคเหมือนกับที่เราพบเห็นได้ในสกู๊ตเตอร์ขาไถทั่วไปซึ่งจะเป็นระบบห้ามล้อที่เราจะทำการเหยียบเพื่อที่จะทำการหยุด scooter ไม่ให้ล้อหมุนซึ่งเป็นระบบเบรกที่ประสิทธิภาพต่ำและไม่เหมาะที่จะนำมาใช้งานกับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเด็ดขาดดังนั้นคุณไม่ควรที่จะเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีระบบเบรคแบบเท้าเหยียบเด็ดขาด

4.ระยะทางของการใช้งาน Scooter 

คุณควรเลือกซื้อสกูตเตอร์ที่สามารถรองรับการใช้งานในระยะทางที่คุณต้องการได้โดยทั่วไปแล้วสกู๊ตเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นจะมีความสามารถในการเดินทางได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้งอยู่ที่ประมาณ 20 ถึง 30 กิโลเมตรซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่วัดได้ที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าผู้ขับขี่จะต้องมีน้ำหนักอยู่ที่ 70 กิโลกรัมและเดินทางในพื้นที่ราบไม่มีเนินและทางลาดชันและใช้แบตเตอรี่ใหม่ดังนั้นในการใช้งานของคุณคุณควรที่จะเผื่อระยะทางจริงกับระยะทางที่อยู่บนแผ่นโบชัวโฆษณาให้ออกโดยในการใช้งานจริงนั้นระยะทางของสกู๊ตเตอร์นั้นอาจจะไม่ถึงตามที่โฆษณาไว้ในแผ่นโบชัวซึ่งทำให้คุณจำเป็นที่จะต้องเลือกสกู๊ตเตอร์ที่มีระยะทำการไว้เผื่อด้วยประมาณ 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์

5.คุณภาพในการประกอบของตัว Scooter

Scooter ที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นเกือบทั้งหมดจะถูกผลิตที่ประเทศจีนโดยโรงงานในประเทศจีนนั้นจะมีทั้งเกรดที่เป็นสกู๊ตเตอร์คุณภาพสูงและคุณภาพต่ำซึ่งในการเลือกใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงคุณภาพในการประกอบวัสดุและอุปกรณ์ที่นำมาใช้งานรวมถึงการประกอบของตัว Scooter นั้นว่ามีความเรียบร้อยแข็งแรงทนทานดีหรือไม่ซึ่งการ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจากแบรนด์หรือยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือนั้นจะช่วยให้คุณสามารถที่จะใช้งาน Scooter ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดการเลือกซื้อสกูตเตอร์จากยี่ห้อที่ไม่รู้จักและดูจากสภาพการประกอบและการผลิตนั้นดูก๊องแก๊งไม่แข็งแรงและโยกเยกขณะใช้งานนั้นเราไม่แนะนำให้คุณเลือกซื้อมาใช้งานเด็ดขาดเพราะว่าพวกมันนั้นจะมีประสิทธิภาพต่ำและมีอายุการใช้งานรวมถึงคุณภาพในการขับขี่ที่แย่มาก

6.ขนาดของ Scooter

 เราแนะนำให้คุณเลือกซื้อสกูตเตอร์ที่มีขนาดที่เหมาะสมกับตัวของคุณสามารถที่จะรับน้ำหนักคุณได้เพียงพอโดยตัวสกู๊ตเตอร์นั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีความสามารถ ในการพับได้ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการเก็บพวกมันได้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นรวมถึงการพับเข้าไปเก็บในหลังรถเพื่อที่จะนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้โดยสิ่งที่คุณควรจะพิจารณาเกี่ยวกับขนาดของสกู๊ตเตอร์เพื่อที่จะนำมาใช้งานนั้นได้แก่

6.1ความสูงของ handlebar และความกว้างของ handlebar ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ในการควบคุม Scooter ให้ไปตามทิศทางที่คุณต้องการทั้งความสูงและความกว้างของ handlebar นั้นจะต้องมีความสูงที่พอเหมาะกับตัวของคุณสามารถที่จะเลื่อนขึ้นหรือลงได้เพื่อที่จะให้มีระดับความสูงที่เหมาะสมซึ่งจะทำให้การควบคุม Scooter นั้นสามารถทำได้อย่างคล่องตัว

6.2พื้นที่ในการเหยียบ  พื้นที่ในการยืนบนแผ่น Scooter นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีขนาดที่สามารถที่จะรองรับเท้าของคุณได้อย่างเพียงพอไม่ลื่นหลุดขณะใช้งานและสามารถที่จะรับน้ำหนักรวมถึงมีระบบป้องกันความปลอดภัยขณะใช้งานมาด้วย

6.3ขนาดของสกู๊ตเตอร์เมื่อพับ Scooter เมื่อทำการค้าตรงนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสามารถพับให้มีขนาดที่เล็กกระทัดรัดจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการเก็บหรือประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บรวมถึงทำให้สามารถที่จะเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย

7.น้ำหนักของ Scooter

 น้ำหนักของสกู๊ตเตอร์ก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะมองข้ามได้เพราะว่าในการใช้งานนั้นจะมีบางครั้งที่คุณจำเป็นที่จะต้องยก หรือเข็น  Scooter ถ้า Scooter นั้นมีน้ำหนักที่มากเกินที่คุณจะเข็นหรือยกได้นั้นจะทำให้คุณเกิดปัญหาในขณะที่ใช้งานได้โดยทั่วไปแล้วที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณตั้งแต่ 15 กิโลกรัมไปจนถึง 35 กิโลกรัมในกรณีที่คุณมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงเพียงพอนั้นการเลือกซื้อสกูตเตอร์ที่มีน้ำหนักเบาจะช่วยให้คุณสามารถที่จะยกพวกมันได้อย่างง่ายดายมากกว่ากลูต้าที่มีน้ำหนักที่มาก

8.น้ำหนักที่สามารถรับได้ของสกู๊ตเตอร์

 Scooterไฟฟ้านั้น จะมีความสามารถในการรับน้ำหนักที่แตกต่างกันโดยก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตรวมถึงวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการมาประกอบเป็นตัว Scooter คุณควรเลือกสกู๊ตเตอร์ที่มีความสามารถในการรับน้ำหนักของคุณได้อย่างเพียงพอโดยทั่วไปแล้วสกู๊ตเตอร์ที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นจะมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 120 กิโลกรัมขึ้นไปซึ่งถ้าคุณมีน้ำหนักร่างกายที่มากกว่านั้นคุณควรที่จะเลือกซื้อ Scooter ที่สามารถรับน้ำหนักนั่งกายของคนได้อย่างเพียงพอ

9.อุปกรณ์เสริมต่างๆที่สำคัญ

อุปกรณ์เสริมต่างต่างที่สำคัญของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านั้นไม่ว่าจะเป็นระบบไฟหน้าส่องสว่างไฟเบรคมือไฟท้ายเพื่อใช้ในการแสดงสัญญาณการเบรคและหยุด Scooter ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถใช้งาน Scooter ได้อย่างปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางคืนที่มีแสงน้อยนะระบบไฟหน้าและไฟท้ายจะช่วยให้คุณสามารถที่จะมองเห็นทางที่อยู่ข้างหน้ารวมถึงช่วยให้ผู้ใช้งานร่วมถนนนั้นสามารถที่จะเห็นคุณได้อย่างชัดเจนและจะทำให้คุณเดินทางได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วยระบบแตรต่างๆเพื่อใช้บอกสัญญาณขอทางหรือมาตรวัดความเร็วเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้ความเร็วที่เหมาะสมในการใช้งานได้