การเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า เลือกอย่างไรดี

ลู่วิ่งไฟฟ้า ในปัจจุบันนี้มีราคาไม่แพงมาก และมีความนิยมที่จะซื้อมาใช้ภายในบ้านเพื่อการออกกำลังกายที่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝนที่มีฝนตกจนเป็นอุปสรรค์ในการออกไปวิ่งข้างนอก หรือในหน้าร้อนที่แสนจะร้อนอบอ้าว ด้วยไอแดดอันร้อนแรง การไปวิ่งออกกำลังกายกลางแจ้งนั้นจึงไม่ค่อยที่จะเหมาะสมเท่าไหร่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อากาศร้อนเป็นสาเหตุหลักของอาการ ฮีทสโตรก ซึ่งสามารถทำให้เสียชีวิตได้ ไม่ออกก็ตาย ออกกำลังกายก็ตายอีก แล้วยังไงต่อละทีนี้ จึงมีความนิยมในการที่จะวิ่ง หรือออกกำลังกายในร่ม ซึ่งข้อดีก็คือคุณสามารถออกกำลังกายตอนไหนก็ได้ที่ต้องการ ไม่ต้องออกไปตากแดตากลบ รับเอามลพิษหรือเสียเวลาเดินทางไกล ๆเพื่อที่จะวิ่งแค่ไม่กี่สิบนาที เสียเวลาและเปลืองน้ำมันอีกด้วย


ลู่วิ่งไฟฟ้าแบบพับเก็บได้ นั้นหาซื้อได้ง่ายแบบที่คุณภาพดีก็หลักพันไม่ถึงหมื่นก็มีแต่ต้องเลือกให้ดี ว่าแบบไหนที่เหมาะสำหรับการใช้งานของเรามากที่สุด ราคาเหมาะสมและมีความคุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่เราจ่ายไป โดยหลักการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้านั้นมีหลายสิ่งที่จะต้องพิจารณาซึ่งต่างมีความสำคัญทั้งนั้น เราจึงได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆที่คุณจำเป็นต้องรู้ มาให้คุณได้อ่านกัน

โดยบทความนี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าเครื่องแรกแต่ว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนักหลังจากที่อ่านบทความนี้คุณจะได้รู้จักหลักการเบื้องต้นในการเลือกซื้อลู่วิ่งออกกำลังกายเพื่อไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจ

มอเตอร์สำหรับลู่วิ่งไฟฟ้า

เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และแพงที่สุดในเครื่องเดินออกกำลังกาย ซึ่งก็เปรียบได้กับหัวใจหลักของลู่วิ่งไฟฟ้าเลทีเดียว ซึ่งเจ้ามอเตอร์นี้คือต้นกำลังหลักของลู่วิ่งไฟฟ้า ถ้าลู่วิ่งไฟฟ้าไม่มีมอเตอร์ก็ไร้ค่าไม่มีประโยชน์ ซึ่งการเลือกมอเตอร์นั้นให้เลือกที่มีขนาดใหญ่สุดจะดีที่สุด ใหญ่ในที่ นี้ไม่ใช่ขนาดแต่หมายถึงกำลังวัตต์ของมอเตอร์ ยิ่งมีกำลังวัตต์มาก ยิ่งมีกำลังมาก และก็จะราคาสูงมากด้วย
โดยมอเตอร์สำหรับลู่วิง่ไฟฟ้านั้นจะมี 2 แบบคือแบบที่ใช้ไฟกระแสตรง DC และกระแสสลับ AC ซึ่งโดยทั่วไปแล้วลู่วิ่งไฟฟ้าจะใช้มอเตอร์แบบ DC โดยมอเตอร์แบบ DC จะมีเสียงที่เงียบกว่าแบบ AC นั่นคือสาเหตุที่ส่วนมากเลือกใช้มอเตอร์แบบดังกล่าว

แรงม้าของมอเตอร์

คือกำลังของมอเตอร์นั่นแหละมีหน่วยเป็นแรงม้า หรือ วัตต์ โดย 1 แรงม้าเท่ากับ 735.499 วัตต์ มีการวัดแรงม้าของมอเตอร์ 2 แบบในลู่วิ่งไฟฟ้า คือแรงม้าแบบ "peak duty" และ "continuous duty" โดย "continuous duty" คือแรงม้าที่เครื่องสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดการใช้งาน ส่วน "peak duty" คือแรงม้าสูงสุดที่เครื่องสามารถทำได้แต่ไม่สามารถใช้แรงม้าดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับคนที่จริงจังกับการวิ่งนั้นแนะนำให้เลือกมอเตอร์แบบ "continuous duty" ที่มีแรงม้ามากกว่า 2.0 HP -2.5 HP ขึ้นไป แต่สำหรับคนที่ไม่ซีเรียสในการออกกำลังกายมากการใช้มอตเรอ์ขนาด 1.7 แรงม้าแบบ "peak duty" ก็เพียงพอ

ความเร็วของสายพาน

ส่วนมากแล้วลู่วิ่งนั้นจะสามารถปรับความเร็วตั้งแต่ 0-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็เพียงพอสำหรับนักวิ่งทั่วไป โดยการวิ่งเร็วเกินนี้ไม่ดีต่อสุขภาพแน่นอน และอันตรายต่อการใช้งานลู่วิ่งด้วย

สายพานเครื่องวิ่ง

ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้วิ่งในลู่วิ่งสายพานนั้นต้องกว้างพอที่จะให้คุณวิ่งหรือเดินได้ และต้องไม่แคบมากจนเกินไป การเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่กว้างจะทำให้คุณมีพื้นที่ในการวิ่งมากกว่า และสบายมากกว่าแบบที่แคบ โดยการเลือกซื้อลู่วิ่งนั้นความกว้างที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 45 นิ้วขึ้นไป และไม่ควรมีขนาดเล็กกว่า 16 นิ้วเด็ดขาดเพราะนั่นเล็กมาก ๆ และคุณอาจจะบาดเจ็บหรือใช้งานไม่สะดวกได้

การปรับระดับ

การที่สามารถปรับระดับความชันในการวิ่งในลู่วิ่งไฟฟ้านั้นเป็นสิ่งใหม่ที่มีประโยชน์ ด้วยการกดปุ่มเพื่อเพิ่มระดับความชัน หรือ ลดระดับความชันนั้น จะช่วยให้ร่างกายของคุณแข็งแรงขึ้น โดยกวารวิ่งในทางชัน 10 -15 องศานั้นจะทำให้ร่างกายคุณได้ทำงานหนัก มากขึ้นและ ได้ความแข็งแกร่งมากขึ้น

ระบบการควบคุม

ในปัจจุบันนี้ลู่วิ่งไฟฟ้าไฮเทคมาก โดยจะมีเหมือนคอมพิวเตอร์ที่คอยโปรแกรมการออกกำลังกายให้คุณแบบต่าง ๆผ่านทางแผงหน้าจอบนลู่วิ่งไฟฟ้า โดยบนนั้นก็จะมีการรายงานค่าต่าง ๆที่คุณจำเป็นต้องรู้เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความเร็ว อุณหภูมิ เวลา ที่ออกกำลังกาย และโปรแกรมที่ใช้อยู่ตอนนั้น ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณสามารถติดตามการออกกำลังกายคุณได้ตลอดเวลา

การรับประกัน

การรับประกันนั้นแสดงถึงความมั่นใจในตัวสินค้าของผู้ผลิตว่ามีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งาน โดยยิ่งมีการรับประกันมาก ก็หมายถึงตัวเครื่องมีคุณภาพมาก ซึ่งการรับประกันนั้นจะต้องครอบคลุมถึง มอเตอร์ โครงสร้าง และอะไหล่ส่วนอื่น ๆด้วยอย่างครบถ้วน

ราคาลู่วิ่งออกกำลังกาย

ของดีไม่ถูก ของถูกไม่ดี เลือกระดับราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณที่คุณตั้งเอาไว้ ไม่ควรซื้อของที่ถูกจนเกินไป แต่ควรที่จะเลือกความคุ้มค่ามาก่อนราคา ลู่วิ่งในระดับราคาที่เหมาะสม กับงบประมาณนั้นดีที่สุด และนอกจากนั้นแล้ว การใช้งานนั้นก็บ่งบอกถึงความคุ้มค่าด้วย หากคุณซื้อลู่วิ่งมาแต่วิ่ง หรือใช้งานไปเดือนละครั้งก็ไม่มีประโยชน์

 เป็นอย่างไรกันบ้างหวังว่าบทความเกี่ยวกับการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า หวังว่าบท ความนี้จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจการเลือกซื้อลู่วิ่งสำหรับออกกำลังกายไม่มากก็น้อย