-->

USB Power Delivery หรือ PD คืออะไร?





Laz Flash Sale ลดแรงกว่า 90%
ดีลจำกัดเวลา ให้คุณเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ทุกวัน สินค้าลดราคากับ Flash Sale
Lazada แฟลชเซล จัดเต็มดีลฮิตทุกวัน ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ☆ดีลจำกัดเวลาสุดฮอต ☆ลดราคาแรง ☆สินค้าหลากหลาย

ช้อปเลย





USB Power Delivery หรือ PD คืออะไร?



 USB Power Delivery หรือ PD คืออะไร? Power Delivery เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการเชื่อมต่อโดยการใช้ช่องสัญญาณ USB Type - C ในการชาร์จแบตเตอรี่โดยนิยมใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานมาก ซึ่งจะทำให้สามารถที่จะใช้กระแสไฟที่สูงขึ้นกว่าทั่วไปและทำให้การชาร์จแบตเตอรี่นั้นสามารถที่จะทำการชาร์จได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่ารูปแบบการชาร์จด้วยเทคโนโลยี อื่นๆโดยเทคโนโลยี Power delivery นี้ก่อนไม่ได้มีความนิยมในการใช้งานในการชาร์จแบตเตอรี่ Notebook laptop แต่ในปัจจุบันนี้ได้มีการนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นมาใช้งานร่วมกับมือถือสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตบางรุ่นซึ่งจะช่วยให้สามารถที่จะทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเอง



โดยระบบการชาร์จด้วยเทคโนโลยี PD หรือ Power Delivery นั้นสามารถที่จะจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 100 วัตต์ โดยรองรับกระแสในการชาร์จตั้งแต่ 5 โวลต์ถึง 20 โวลต์ และค่าแอมป์ ก็จะแปรผันตามค่าโวลต์ ของกระแสไฟโดยจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุดได้กับอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีหรือรองรับการใช้งานเทคโนโลยี Power delivery เท่านั้นซึ่งในปัจจุบันนี้อุปกรณ์ที่รองรับระบบการค้าดังกล่าวนั้นได้แก่อุปกรณ์จำพวก Apple iPhone X,XR,XS,XSmax / iPhone 8,8+ / iPad Pro.


โดยอุปกรณ์ที่จะใช้งานเทคโนโลยีในการชาร์จแบบ Power Delivery นั้นทั้งเครื่องชาร์จและอุปกรณ์ที่จะชาร์จนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับการใช้งานมาตรฐาน Power เดลิเวอรี่ทั้งคู่ไม่ว่าจะเป็นหัวชาร์จที่ส่วนมากแล้วจะมีช่องสำหรับเสียบพอร์ต USB Type C ซึ่งเป็นช่องที่ใช้ในการเชื่อมต่อเนื่องจากต้องรองรับมาตรฐาน Power เดลิเวอรี่หรือ PD และสายที่ใช้ในการชาร์จนั้นจะต้องเป็นสายแบบ USB Type C to USB Type C  และ ตัวอุปกรณ์ที่จะชาร์จจะต้องรองรับเทคโนโลยีในการชาร์จเร็วแบบ Power delivery หรือ Quick Charge 4.0 ขึ้นไปก็จะสามารถที่จะใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี Power delivery ได้อย่างไม่มีปัญหา


ซึ่งในปัจจุบันนี้อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานระบบชาร์จแบต Power Delivery ที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นได้แก่


1. Notebook และ laptop ที่ ใช้ช่องชาร์จไฟบ้านเข้ากับพอร์ต USBใช้ C และรองรับการชาร์จแบบ PD ซึ่งในปัจจุบันนี้มีวางขายมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อ


2. เครื่องเล่นเกมส์ Nintendo Switch ที่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบ PD 39 วัตต์


3.  Apple iPad รุ่นล่าสุดรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบต PD  39 วัตต์


4. มือถือสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่มีเทคโนโลยี  QC 4.0 


และนอกจากอุปกรณ์ที่รองรับ การชาร์จด้วยระบบ PD แล้วเครื่องชาร์จหรือหัวชาร์จต่างๆนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับเทคโนโลยี PD ด้วยเช่นกันซึ่งในปัจจุบันนี้มีอุปกรณ์ชาร์จมือถือหัวชาร์จต่างๆที่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าวแล้วมาให้เลือกใช้งานมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็นหัวชาร์จ ที่มีเทคโนโลยี PD ตั้งแต่ 18 วัตต์ ถึง 65 วัตต์ แบตเตอรี่สำรอง Power Bank ที่มีเทคโนโลยี Power Delivery 18 จนถึง 100 วัตต์ และที่ชาร์ตในรถยนต์ก็มีการรองรับมาตรฐานการชาร์จด้วยเทคโนโลยี PD แล้วบางรุ่นซึ่งคุณสามารถที่จะทำการ เลิกซื้อหามาใช้งานตามความเหมาะสมของอุปกรณ์ของคุณได้แล้วในตอนนี้


สำหรับสายที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ที่มีเทคโนโลยีการชาร์จแบบ PD นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง เลือกซื้อสายชาร์จที่เป็นสายชาร์จแบบ usb-c to usb-c ทั้งขาเข้าและขาออกของอุปกรณ์เนื่องจากว่า จะต้องใช้การเชื่อมต่อด้วย port vs มีทั้งเครื่องชาร์จและตัวอุปกรณ์ที่จะ ชาร์จแบตเตอรี่แต่สำหรับอุปกรณ์จำพวก APPLE นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สายเคเบิลเฉพาะซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์จากแอปเปิ้ลเท่านั้นซึ่งก็จะเป็นสายเคเบิลแบบ usb-c to Lightning Adapter เท่านั้นจึงจะสามารถใช้ในการชาร์จแบต Power Delivery  ได้ 


สรุปก็คือเทคโนโลยีการใช้ Power Delivery  นั้นเป็นระบบชาร์จเร็ว ที่รองรับการใช้งานอุปกรณ์ที่หลากหลายโดยข้อดีหลักของระบบ การชาร์จแบต PD ก็คือความเร็วในการชาร์จที่มากกว่าระบบการชาร์จในรูปแบบอื่นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้อุปกรณ์ในการชาร์จสายเคเบิลและเครื่องชาร์จเฉพาะที่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าวเท่านั้นจึงจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ