-->

ผักชี คืออะไร ?





Laz Flash Sale ลดแรงกว่า 90%
ดีลจำกัดเวลา ให้คุณเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ทุกวัน สินค้าลดราคากับ Flash Sale
Lazada แฟลชเซล จัดเต็มดีลฮิตทุกวัน ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ☆ดีลจำกัดเวลาสุดฮอต ☆ลดราคาแรง ☆สินค้าหลากหลาย

ช้อปเลย





ผักชี คืออะไร ?



ผักชี หรือ มีชื่อเรียกเฉพาะที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่ ภาคเหนือจะเรียกว่า ผักหอมป้อม และ ผักหอมผอม ภาคอีสานเรียกว่า ผักหอมน้อย ผักชีไทย ซึ่งใช้ในการปรุงแต่กลิ่นของอาหารเพื่อให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น ไม่เว้นแม้กระทั่งราก โดยใบและก้านใช้ในการหั่นเพื่อใส่ในอาหารโดยตรง


สามารถใช้ได้ ทั้งสด และปรุงสุกแล้ว ส่วนรากนั้นใช้โขลกในในน้ำแกงเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และใส่ในเครื่องแกงเพื่อเพิ่มรสชาติ สามารถใช้รับประทานเป็นผักเคียง และตกแต่งในอาหารหลายชนิด เช่น ใส่ในลาบ ก้อย แหนมสด รากผักชีใช้เป็นส่วนประกอบในน้ำพริกแกง ใส่ในทอดมัน ห่อหมก น้ำจิ้ม เมล็ดใช้เป็นเครื่องเทศ ใส่ในน้ำพริกแกง สะเต๊ะ บาเยีย ข้าวหมกไก่ และเกือบทุกเมนูของอาหารไทยนอกจากของหวานสามารถใส่ผักชีได้ทั้งนั้น

ลักษณะของผักชี

ผักชี มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Coriander หรือที่รู้จักในชื่อ Chinese parsley มีชื่อวิทยาศาสตร์: Coriandrum sativum เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กในวงศ์ Apiaceae ใบติดกับลำต้น มีใบย่อยเป็นจำนวนมาก ใบหยักลึกเข้าหากลางใบ ดอกช่อ ดอกย่อยสีขาวอมชมพู ผลมีลักษณะรี ค่อนข้างกลม แก่จัดเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล มีเมล็ด 2 เมล็ด

ผักชีเป็นพืชที่มีลำต้นอ่อนนุ่ม อวบน้ำความสูงประมาณ 50 เซนติเมตรโดยใบนั้นจะมีลักษณะที่หลากหลาย แต่ส่วนมากจะมีใบหลักก้านยาวตรง และออกดอกด้วยการชูก้านดอกขึ้นด้านบนเป็นช่อ  และมีเมล็ดกลมเล็กขนาด 3-5 มิลลิเมตรขึ้นอยู่กับสายพันธุ์

ประวัติของผักชี

ผักชีเป็นพืชท้องถิ่นในแถบ ยุโรปตอนล่าง แอฟริกาตอนบน และในแถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ของเอเชีย แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีกำเนิดขึ้นที่ไหนเป็นที่แรก โดยมีการค้นพบซากของพืชชนิดนี้เป็นครั้งแรกในถ้ำ  Nahal Hemar Cave ในประเทศ อิสราเอล ซึ่งเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่เก่าแก่ที่สุดที่สามารถค้นพบได้ และยังพบหลักฐานในชั้นหินในยุคก่อน สัมฤทธิ์ ที่ Sitagroi ประเทศ Macedonia ในปัจจุบัน

การใช้งานผักชี


ใบผักชี

ใบและก้านของผักชีใช้โรยใส่ในอาหารให้ดูน่ากิน ด้วยการหันฝอย หรือ หันให้มีขนาดเล็กเพื่อโรยหน้า จนเป็นที่มาของสำนวนที่ว่า หมายถึง การทำความดีเพียงผิวเผิน ไม่ได้ทำดีอย่างจริงจังเป็นประจำ หรือสม่ำเสมอ จะทำดีเฉพาะหน้าหรือเวลามีคนมาตรวจ มาเยี่ยม. สำนวนนี้มีที่มาจาก ผักชีที่ใช้โรยหน้าหรือตกแต่งหน้าอาหารให้ดูน่ารับประทาน ทั้งมีกลิ่นหอม และเพิ่มรสชาติให้อาหารอร่อย เช่นเดียวกับการทำงาน การจัดงาน หรือจัดสถานที่ต่าง ๆ เมื่อมีผู้มาตรวจ มาเยี่ยม ก็จะจัดหาของสวย ๆ งาม ๆ หรือดูดี มาตกแต่ง เมื่อผู้มาตรวจ มาเยี่ยมกลับไป ของเหล่านั้นก็จะถูกรื้อออกกลับเป็นสภาพเดิมที่ไม่สวยงาม สกปรกเลอะเทอะ หรือไม่เรียบร้อย

เม็ดผักชี 

เม็ดผักชี เม็ดผักชี (coriander seed) เป็นเมล็ดแก่ของต้นผักชีที่ถูกตกให้แห้งมีขนาดประมาณ 3-5 มิลลิเมตรมีสีน้ำตาลอ่อน ทรงกลมภายในมี 2 ซีกที่มีเมล็ดติดอยู่ภายในมีกลิ่นหอม แต่ไม่ฉุนรีรสออกค่อนข้าง ขมปนหวานและฝาด มีกลิ่นและรสคล้ายมะนาว สามารถใช้เป็นเครื่องเทศ ใช้ในการทำผงกะหรี่ เครื่องแกงต่าง ๆ เพื่อใช้ในการดับกลิ่นคาวได้ดีมาก โดยเฉพาะกลิ่นคาวของเนื้อสดๆ อาจจะนำมาคั่วไฟอ่อนๆ จนได้กลิ่นหอม หรือไปป่นละเอียดผสมในเครื่องแกง นิยมใช้ร่วมกับเมล็ดยี่หร่า อีกทั้งยังสามารถใช้ปรุงแต่งกลิ่นรสของอาหาร เช่น ครีม เนย เห็ด ขนมปัง คุกกี้ เค้ก ซุป สตูว์ ข้าวโพด ถั่ว สลัด ไอศกรีม หมากฝรั่ง เครื่องดื่ม เป็นต้น  เม็ดผักชีใช้ผสมในเครื่องแกง เช่น แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน แกงกะหรี่ แกงมัสมั่น ทำให้แกงมีกลิ่นหอม

รากของผักชี (coriander root)

รากของผักชี ใช้เป็นเครื่องปรุงรสและกลิ่นให้อาหาร โดยนำรากของผักชีมาทุบหรือบุ แล้วนำไปต้มกับน้ำซุปเพื่อให้หอม หรือนำไปหมักกับเนื้อสัตว์ อาจนำไปตำในการทำน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ได้ โดยรากผักชีนี้มีความสำคัญมาก เมนูอาหารไทยบางเมนูจะไม่สมบูรณ์ได้ถ้าขาดพวกมัน

ประโยชน์ของผักชี

ผักชีนั้นมีประโยชน์มากมายหลายประการ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรใกล้บ้านที่มีประโยชน์มากก็ว่าได้ โดยคุณประโยชน์ของผักชีที่เราจะได้จากพวกมันได้แก่

  • ต้านอนุมูลอิสระได้ ป้องกันโรคมะเร็ง
  • ช่วยลดน้ำตาลในเลือก เหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนัก
  • ป้องกันโรคหวัด
  • แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
  • ต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆที่เป็นอันตรายในลำไส้
  • ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร
  • เป็นยาระบายอ่อนๆ
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานส่วนต่าง ๆของร่างกาย

แต่อย่างลืมไปว่าผักชีนั้นก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นโรคไตเนื่องจากว่าในผักชีนั้นมีปริมาณโพแทสเซียมอยู่มาก จึงอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะหรือปรึกษาแพทย์ก่อน