-->

5G ความเร็วสูงสุดเท่าไหร่?





Laz Flash Sale ลดแรงกว่า 90%
ดีลจำกัดเวลา ให้คุณเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ทุกวัน สินค้าลดราคากับ Flash Sale
Lazada แฟลชเซล จัดเต็มดีลฮิตทุกวัน ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ☆ดีลจำกัดเวลาสุดฮอต ☆ลดราคาแรง ☆สินค้าหลากหลาย

ช้อปเลย





5G ความเร็วสูงสุดเท่าไหร่?



 5G ความเร็วสูงสุดเท่าไหร่? การใช้งานเครือข่าย 5G นั้นในทางทฤษฎีแล้วสามารถที่จะทำความเร็วได้สูงสุดถึง 20 Gbps  ในการดาวน์โหลดข้อมูลและความเร็วสูงสุดถึง 10 Gbps ในการอัพโหลดข้อมูล ซึ่งนั่นเป็นการใช้งานในพื้นที่และมีการควบคุมปัจจัยต่างๆอย่างถูกต้อง  แต่ในการใช้งานจริงนั้นความเร็วของเครือข่าย 5G จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่จะทำให้มีระดับความเร็วในการใช้งานที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นระยะทางระหว่างเสาส่งและอุปกรณ์สิ่งกีดขวาง, สภาพสิ่งแวดล้อม, อุณหภูมิ , ปริมาณความหนาแน่นของเครือข่าย , และปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมต่อความเร็วในการใช้งานของเครือข่าย 5G.


5G ความเร็วสูงสุดเท่าไหร่?



 ซึ่งในการใช้งานเครือข่าย 5G โดยปกติแล้วจะมีความเร็วในช่วงประมาณ 50 Mbps จนถึง 1 Gbps ขึ้นอยู่กับประเภทคลื่นโดยคลื่น 5G แบบ mmWave นั้นจะสามารถที่จะทำการส่งข้อมูลได้รวดเร็วถึง  4 Gb/s.   และคลื่นที่มีความถี่ตำ Low-band ก็จะสามารถที่จะทำการให้บริการได้ระยะทางที่ไกลขึ้นรองรับพื้นที่ในการใช้งานที่กว้างขึ้นแต่ก็จะมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ต่ำลงกว่าคลื่นความถี่สูงหรือ High Brand.



 ความหน่วงหรือ latency ของเครือข่าย 5G นั้นในการใช้งานจริงจะอยู่ที่ประมาณ 8-12 milliseconds แต่ก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับมากมายหลากหลายปัจจัยดังที่กล่าวมาแล้วไม่ว่าจะเป็นระยะทางคลื่นความถี่และปัจจัยอื่นๆซึ่งการที่จะได้ความหลวงหรือ latency ในช่วง 1-4 ms นั้นเป็นความเร็วที่คาดว่าจะได้ในทางทฤษฎีเท่านั้น และจะพบเห็นได้เฉพาะห้องแลปทดลองเท่านั้น แต่ในการใช้งานจริงจะมากกว่านั้นเนื่องจากว่ามีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง



ความครอบคลุมของเครือข่าย 5G ก็จะขึ้นอยู่กับมากมายหลากหลายปัจจัยแต่ช่วงของคลื่นความถี่นั้นเป็นปัจจัยที่มีส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับเครือข่าย 5G โดยคลื่นแบบ mmWave อาจจะมีระยะในการครอบคลุมเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้นจากเสาสัญญาณในขณะที่คลื่นที่เป็นแบบ Low band นั้นจะสามารถที่จะครอบคลุมได้หลายกิโลเมตร.



 ความเร็วของเครือข่าย 5G เมื่อเปรียบเทียบกันกับเครือข่าย 4G


 เครือข่าย 5G นั้นคือเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายรุ่นที่ 5 หรือ Generation ที่ 5 ซึ่งเป็นที่มาของตัวย่อจีที่ตามหลังคำว่า 5G ( Generation)   ซึ่งจะมีความเร็วและประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลที่มากกว่าเครือข่าย 4G มากถึงพันเท่าไม่ว่าจะเป็นในด้านของความเร็วในการรับส่งข้อมูลซึ่งเครือข่าย 5G สามารถที่จะส่งข้อมูลสูงสุดได้ที่ 20 Gbps ในขณะที่เครือข่าย 4G นั้นสามารถที่จะทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 1 Gbps เท่านั้นจึงทำให้เครือข่าย 5G นั้นเหมาะมากสำหรับที่จะใช้ในการย้ายไฟล์ขนาดใหญ่หรือข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงไฟล์ข้อมูลต่างๆจำนวนมากซึ่งจะช่วยให้การใช้งาน Application ต่างๆมั้งสามารถที่จะทำการโอนถ่ายข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและทำการนำเอาไปประมวลผลได้รวดเร็วเพิ่มมากยิ่งขึ้นเพิ่มโปรดักติวิตี้หรือประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น



มีการตอบสนองที่รวดเร็วกว่าโดยเครือข่าย 5G นั้นจะมีอัตราการดีเลย์หรือ  Latency ที่ต่ำกว่าเครือข่าย 4G  ซึ่งเครือข่าย 5G นั้นจะมีความหน่วงอยู่ที่ 8-12 Ms  ในขณะที่เครือข่าย 4G นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 40 Ms ซึ่ง Latency หรือ ความหน่วง ดังกล่าวนั้นเป็นความเร็วในการตอบสนองในการเชื่อมต่อระหว่าง 2 อุปกรณ์ยกตัวอย่างเช่นในการ วีดีโอคอลนั้นเราขาดจะเห็นภาพที่ช้ากว่าเสียงในบางครั้งเมื่อใช้งานเครือข่าย 4G แต่ถ้าเป็นเครือข่าย 5G แล้วปัญหาดังกล่าวจะลดลงจนทำให้คุณอาจจะเห็นภาพและเสียงตรงกันแบบ Real Time เมื่อใช้งานบนเครือข่าย 5G.



และสุดท้ายคือปริมาณการเชื่อมต่อของอุปกรณ์บนเครือข่าย 5G นั้นจะสามารถรองรับจำนวนอุปกรณ์ได้มากกว่าเครือข่าย 4G ถึง 10 เท่าโดยเครือข่าย 5G นั้นสามารถรองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้ถึง 1,000,000 อุปกรณ์ต่อ 1 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจากเดิม 4G สามารถเชื่อมต่อได้จำนวน 100,000 อุปกรณ์ต่อ 1 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นผลที่ดีในอนาคตเป็นอย่างมากเพราะ 5G นี้จะมีส่วนช่วยให้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) นั้นมีความเป็นได้เร็วยิ่งขึ้น.



ทั้งหมดนี้คือข้อแตกต่างของความสามารถระหว่าง 4G และ 5G รวมถึงเราสามารถใช้ประโยชน์จาก 5G ในอนาคตได้อย่างไร ซึ่งเป็นไปได้อย่างชัดเจนว่า 5G จะมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานของเราในอนาคตอย่างแน่นอนและภายในระยะเวลา 3-5 ปีนี้เราอาจจะเริ่มเห็นการนำ เครือข่าย 5G มาใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน และเครือข่าย 5G ในประเทศไทยในปัจจุบันนี้ก็เริ่มมีให้บริการในบางจุดของประเทศแล้วซึ่งคุณสามารถที่จะเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ผู้ให้บริการต่างๆไม่ว่าจะเป็น AIS Dtac หรือ TrueMove และคุณสามารถที่จะนำการเลือกซื้อมือถือสมาร์ทโฟนที่รองรับเครือข่าย 5G มาใช้งานได้แล้วและสำหรับผู้ที่กำลังมองหาโทรศัพท์มือถือที่รองรับ 5G ราคาไม่แพงนั้นเราแนะนำให้คุณไปอ่านที่บทความนี้ มือถือ 5G ราคาไม่เกิน 10,000 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง? ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการเลือกซื้อมือถือ 5G ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากที่สุดได้