-->

เปลือก อะโวคาโด กินได้ไหม





Laz Flash Sale ลดแรงกว่า 90%
ดีลจำกัดเวลา ให้คุณเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ทุกวัน สินค้าลดราคากับ Flash Sale
Lazada แฟลชเซล จัดเต็มดีลฮิตทุกวัน ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ☆ดีลจำกัดเวลาสุดฮอต ☆ลดราคาแรง ☆สินค้าหลากหลาย

ช้อปเลย





เปลือก อะโวคาโด กินได้ไหม



 เปลือกอะโวคาโดสามารถรับประทานได้ แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่ได้รับประทานกัน เนื่องจากมีรสชาติขมและเหนียว เปลือกอะโวคาโดมีสารอาหารหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี โพแทสเซียม และไฟเบอร์ แต่ปริมาณสารอาหารเหล่านี้มีน้อยกว่าเนื้ออะโวคาโดมาก ดังนั้นจึงนิยมรับประทานเนื้ออะโวคาโดมากกว่า


อย่างไรก็ตาม เปลือกอะโวคาโดสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น นำไปสกัดเป็นน้ำมันอะโวคาโด นำไปใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร เช่น ซอส น้ำสลัด หรือนำไปหมักดอง เป็นต้น


หากต้องการรับประทานเปลือกอะโวคาโด ควรล้างให้สะอาดก่อน ลอกเปลือกออกแล้วนำไปหั่นหรือปั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปประกอบอาหารหรือรับประทานสดก็ได้


เปลือกอะโวคาโดมีสารอาหารหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี โพแทสเซียม และไฟเบอร์ แต่ปริมาณสารอาหารเหล่านี้มีน้อยกว่าเนื้ออะโวคาโดมาก ดังนี้


สารอาหารที่สำคัญที่สุดในเปลือกอะโวคาโดคือ วิตามินเอ ที่ช่วยในการมองเห็น บำรุงผิว และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เปลือกอะโวคาโดยังมีวิตามินซีที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย


นอกจากนี้ เปลือกอะโวคาโดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น แคโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ และโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน


อย่างไรก็ตาม เปลือกอะโวคาโดมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่มีรสขมและเหนียว หากรับประทานเปลือกเข้าไปอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้องได้ ดังนั้น จึงควรรับประทานเปลือกอะโวคาโดอย่างระมัดระวัง


ในการรับประทานเปลือกอะโวคาโด ควรระมัดระวังสิ่งต่อไปนี้:


  1. ล้างให้สะอาด ก่อนรับประทานเปลือกอะโวคาโด ควรล้างให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกหรือสารเคมีตกค้างที่อาจปนเปื้อนอยู่
  2. ลอกเปลือกออก ก่อนรับประทานเปลือกอะโวคาโด ควรลอกเปลือกออกให้หมด เนื่องจากเปลือกอะโวคาโดมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่มีรสขมและเหนียว หากรับประทานเปลือกเข้าไปอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้องได้
  3. หั่นหรือปั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หากต้องการรับประทานเปลือกอะโวคาโดสด ควรหั่นหรือปั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้รับประทานได้ง่ายและย่อยง่ายขึ้น

เปลือก อะโวคาโด กินได้ไหม


นอกจากนี้ ควรระมัดระวังในการรับประทานเปลือกอะโวคาโดหากมีภาวะต่อไปนี้:


  • โรคกระเพาะอาหาร เปลือกอะโวคาโดมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ หากมีภาวะกระเพาะอาหารอักเสบหรือโรคกระเพาะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเปลือกอะโวคาโด
  • โรคแพ้อะโวคาโด บางคนอาจมีอาการแพ้อะโวคาโด ซึ่งอาจรวมถึงอาการแพ้เปลือกอะโวคาโดด้วย หากมีอาการแพ้อะโวคาโด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเปลือกอะโวคาโด

หากรับประทานเปลือกอะโวคาโดแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ควรหยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์ทันที


ใครไม่ควรกิน เปลือก อะโวคาโด



โดยทั่วไปแล้ว ทุกคนสามารถรับประทานเปลือกอะโวคาโดได้ แต่ควรระมัดระวังสิ่งต่อไปนี้:


  • ล้างให้สะอาด ก่อนรับประทานเปลือกอะโวคาโด ควรล้างให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกหรือสารเคมีตกค้างที่อาจปนเปื้อนอยู่
  • ลอกเปลือกออก ก่อนรับประทานเปลือกอะโวคาโด ควรลอกเปลือกออกให้หมด เนื่องจากเปลือกอะโวคาโดมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่มีรสขมและเหนียว หากรับประทานเปลือกเข้าไปอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้องได้
  • หั่นหรือปั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หากต้องการรับประทานเปลือกอะโวคาโดสด ควรหั่นหรือปั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้รับประทานได้ง่ายและย่อยง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ควรระมัดระวังในการรับประทานเปลือกอะโวคาโดหากมีภาวะต่อไปนี้:


โรคกระเพาะอาหาร เปลือกอะโวคาโดมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ หากมีภาวะกระเพาะอาหารอักเสบหรือโรคกระเพาะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเปลือกอะโวคาโด

โรคแพ้อะโวคาโด บางคนอาจมีอาการแพ้อะโวคาโด ซึ่งอาจรวมถึงอาการแพ้เปลือกอะโวคาโดด้วย หากมีอาการแพ้อะโวคาโด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเปลือกอะโวคาโด

หากรับประทานเปลือกอะโวคาโดแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ควรหยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์ทันที


ดังนั้น ผู้ที่ไม่ควรรับประทานเปลือกอะโวคาโด ได้แก่


  • ผู้ที่มีอาการแพ้อะโวคาโด
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคกรดไหลย้อน
  • เด็กเล็ก

นอกจากนี้ ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดกรด ยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเปลือกอะโวคาโด เนื่องจากเปลือกอะโวคาโดมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้ยาเหล่านี้ดูดซึมได้น้อยลง